P-Move ชวน People ปักหลักชุมนุมค้างคืน
เมื่อที่ดินคือชีวิต และยังคงมีปัญหามากมายที่รอแก้ไข
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2562 ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ P-Move ซึ่งหลอมรวมขบวนการภาคประชาชนถึง 6 เครือข่าย ได้แก่ เครือข่ายสลัม 4 ภาค, เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน, เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง, สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ, สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ และ เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด กว่า 500 คน รวมตัวปักหลักชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาที่ดิน ตลอดจนยื่นข้อเสนอเพื่อเร่งรัดกระบวนการแก้ปัญหาต่อรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
สุแก้ว ฟุงฟู ตัวแทนชาวบ้านจาก สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ เล่าถึงที่มาการชุมนุมว่า วันนี้ ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อมาไล่รัฐบาล คสช. แต่มาเพื่อมาติดตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้ว่า จะแก้ปัญหาให้คนจนที่มีปัญหาที่ดิน ซึ่งผ่านมากว่า 4 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหา หรือในบางกรณีกลับได้รับผลกระทบรุนแรงขึ้น
“ที่ดินทำกินเป็นเรื่องหลักของชาวบ้าน วันนี้ปัญหาที่ดินมีมากจนเราต้องรวมตัวกันถึง 6-7 เครือข่าย บางคนโดนจับเพราะเข้าไปหากินในพื้นที่อุทยาน ทั้งที่อุทยานมาประกาศทับที่ชาวบ้าน อย่างตัวผมเองติดคุก 1 ปี เพราะไปปลูกกะหล่ำในแปลงของนายทุน ซึ่งผมก็ใช้พื้นที่นี้ซึ่งเป็นพื้นที่สาธษรณะซึ่งรกร้างปลูกมาตั้งแต่เด็กยันหัวหงอก จนวันหนึ่งนายทุนมาบอกว่าที่ดินรถร้างที่ผมปลูกกะหล่ำตรงนี้เขามีเอกสารสิทธิ์เป็นเจ้าของ ผมก็สงสัยว่าที่ดินตรงนี้เป็นที่ที่รัฐจัดสรรให้เกษตรกรทำประโยชน์ แต่นายทุนได้เอกสารสิทธิ์ในการครอบครองมาอย่างถูกต้องและชอบธรรมได้ยังไง ? สุดท้ายผมโดนจับไม่มีเงินประกันก็ติดคุก วันนี้ปัญหาเรื่องที่ดินเกิดขึ้นทั่วประเทศทั้งภาคเหนือ ใต้ อีสาน แต่การแก้ปัญหากับไม่คืบหน้า ซ้ำแล้วรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี่ก็ไม่ได้ให้สิทธิชุมชนในการจัดการที่หาอยู่หากินเลย ที่ผ่านมามีการตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหามีมาตั้งแต่ปี 2557 แต่ก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้ ทีเรื่องการอนุมัติกฎหมาย หรือยกร่างกฎหมายที่เป็นโทษกับชาวบ้านทำได้เร็วเหลือเกิน แต่ปัญหาปากท้องของพี่น้องกลับทำช้า ที่เขาว่าคนจนจะหมดประเทศ คงหมายถึงคนจนต้องตายกันหมดประเทศ ไม่ใช่จะแก้ปัญหาให้” สุแก้วกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการประชุมอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ซึ่งทางกลุ่มยังยืนยันจะปักหลักชุมนุมต่อไปจนกว่าจะได้การแก้ไขปัญหาจะบรรลุข้อเสนอ
ทั้งนี้ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-Move) ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง “ไทยแชมป์ความเหลื่อมล้ำ : 100 กรณี 4 ปี แก้ปัญหาไม่เสร็จ” ระบุว่า นับตั้งแต่มีการตั้งกลไกการแก้ปัญหาขึ้นมากว่า 4 ปี ปรากฏว่า การสั่งการเชิงนโยบายที่ต้องข้ามกระทรวงไม่สามารถทำได้จริง จึงกลายเป็นการอุปสรรคอันใหญ่หลวงในการแก้ปัญหาของ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-Move) นอกจากนั้น ทางกลุ่มยังไม่เคยได้เห็นความห่วงใยต่อการแก้ไขปัญหาจากนายกรัฐมนตรีแม้เพียงการให้เข้าพบเพื่อเสนอและรับฟังสภาพปัญหาของชาวบ้าน