06 สิงหาคม 2025

สตูลปลดล็อก One Plan

ประชาสังคมผนึกกำลังจังหวัดตั้ง “ภาคีความร่วมมือ” ขันน็อต One Plan ดันเสียงกลุ่มเปราะบางสู่แผนพัฒนาจังหวัด

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 ณ ห้องประชุมโต๊ะพญาวัง ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสตูล เวทีปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นว่าด้วยการขับเคลื่อนบทบาทงานภาคประชาสังคมที่ทำงานดูแลสุขภาวะประชากรกลุ่มเปราะบาง ยกระดับสู่แผนพัฒนาจังหวัด One Plan

โดยวางเป้าท้าทาย “เราจะเปลี่ยนฝันของประชาสังคมให้เข้าสู่แผนพัฒนาจังหวัดจริงได้อย่างไร?” การประชุมจัดขึ้นจากความร่วมมือของ สถาบันส่งเสริมภาคประชาสังคม (สสป.) และเครือข่ายภาคประชาสังคมสตูล ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

พร้อมนำบทเรียนและแรงส่งจากร้อยเอ็ด ปัตตานี พะเยา ลำพูน ต่อยอดสร้างทางเลือกใหม่ในการแก้ปัญหา ไม่ให้เสียงกลุ่มคนเปราะบางหายไปจากแผนจังหวัด

การประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมจากภาคส่วนต่าง ๆ กว่า 50 คน จาก 42 แห่ง ตลอดทั้งวัน ภาคประชาสังคม รัฐ ท้องถิ่น และทุกภาคส่วนร่วมถอดบทเรียน ถ่ายทอดประสบการณ์ชุมชน ตั้งวงวิพากษ์ข้อจำกัดและแสวงหาโอกาสใหม่ ที่จะปลดล็อกสู่แผนพัฒนาจังหวัดที่ไม่ถูกผูกขาดไว้โดยราชการอีกต่อไป

ชนวนตั้งต้น: โครงสร้างราชการกับเสียงที่หายไป

เวทีนี้เริ่มต้นโดย น.ส. บุษยรัตน์ กาญจนดิษฐ์ นักวิชาการสถาบันส่งเสริมภาคประชาสังคม (สสป.) ชี้แจงวัตถุประสงค์ คือ การปลดล็อกโครงสร้างและกระบวนการที่ติดขัด ให้ภาคประชาสังคมสามารถกำหนดทิศทางการพัฒนาได้จริง ไม่ใช่เพียงแค่ส่งข้อเสนอให้ “หน่วยงานเลือกจะรับหรือไม่”

ข้อจำกัดที่ปรากฎ ได้แก่

- ขาดการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในแผนจังหวัด
- ข้อเสนอประชาชนไม่ถูกนำไปปฏิบัติจริง
- ขาดตัวแทนประชากรเปราะบางในคณะกรรมการบริหารจังหวัด (กบจ.)
- รัฐยังมองประชาสังคมเป็นคู่แข่งมากกว่าพันธมิตร

เวทีนี้วางหมุดหมายให้ One Plan กลายเป็นพื้นที่อำนาจร่วมระหว่างรัฐ–ประชาสังคม ที่กลไกใหม่ต้องมาจากฐานชุมชนขึ้นไป ไม่ใช่จากบนลงล่างเท่านั้น เพราะจังหวัดสตูล ได้ชื่อว่าเป็นอีกจังหวัดที่มีภาคประชาสังคมแข็งแกร่ง โดยเฉพาะ “รักจังสตูล” ที่จัดสมัชชามาแล้วกว่า 11 ปี แต่ข้อจำกัดที่สะท้อนผ่านเวทีวันนี้สะท้อนความจริงที่ยากจะปฏิเสธ

- ภาคประชาสังคมมีฝัน แต่ไม่สามารถ “เสียบเข้าแผนจังหวัด” ได้สำเร็จ

- ข้อเสนอจากประชาสังคมถูกดูดซึมหายไปในระบบ

- รัฐมองภาคประชาสังคมเป็น “outsider” ข้อมูลและบทบาทไม่ถูกนับรวมในแผนจังหวัด

- ขาดกลไกกลางและวงพูดคุยถาวรระดับจังหวัด

- แม้จะมี ก.บ.จ. ครบ 12 คน ทว่าระบบยังไม่เปิดทางให้เชื่อมประเด็นกับหน่วยงานรัฐโดยตรง

- ข้อเสนอเพียบ แต่รัฐรับไปแค่บางส่วน

เนื่องจากทุกปี “รักจังสตูล” เชิญรัฐมาในเวทีสมัชชา ทุกครั้งข้อเสนอถูกส่ง บางครั้งรัฐรับ บางครั้งไม่รับ ด้วยโครงสร้างความเหลื่อมล้ำทางอำนาจและงบประมาณ เวทีนี้จึงต้องเคลื่อนให้ “'งานประชาสังคม” รอดทะลุจากห้องสมัชชา ขึ้นไปสู่แผนจังหวัดจริง

ทำอย่างไร ให้เสียงคนเปราะบางให้เป็นเสียงของจังหวัด?

- ตลอดทั้งวัน ตัวแทนทุกกลุ่มล้อมวงสะท้อนความจริง เสนอไอเดีย ตั้งโจทย์เผชิญหน้าปัญหา

- ก.บ.จ.สตูล มีตัวแทนสัดส่วนภาคประชาสังคมครบ 12 คน แต่ยังไม่หลากหลาย และครอบคลุมคนทำงานด้านประชากรเปราะบาง

- ช่องว่างข้อมูล แต่ละคนรู้ปัญหาแค่ชุมชนตัวเอง ไม่มีการแลกเปลี่ยนในระดับกว้าง

- ตั้งข้อสังเกตประชาสังคมสตูลขาดเจ้าภาพ ขาดวงแลกเปลี่ยนถาวร ทำให้เสียงไม่ดังพอ

- เสนอให้ตั้งสภาภาคประชาสังคมหรือคณะทำงานกลาง ร่วมกันกำหนดทิศทางและบริหารแผน

- เสนอลดอคติ สร้างความเข้าใจระหว่างหน่วยงานรัฐ–ประชาสังคม

- ไอเดีย ข้อเสนอเพียบ แต่ไม่มีหลักประกันว่าจะผลักดันขึ้นจังหวัดได้สำเร็จ

- ทุกคนยอมรับรัฐมีข้อจำกัดเหมือนกัน ต้องปลดล็อกฝั่งประชาสังคมและรัฐไปควบคู่กัน

- ไอเดียใหม่ๆ เช่น แผนตำบลจัดการตนเองจากตำบลเกตรี ถูกเสนอให้นำร่องและขยายผล

- เห็นตรงกันว่า “ รัฐ ต้องการเสียงประชาชนมากขึ้นกว่าเดิม” แต่สื่อสารยังไม่ถึงกัน

กรณีศึกษา เสียงมานิ ต้องมีที่ยืนในแผนจังหวัด ข้อเสนอสำคัญในเวทีนี้คือ “ปัญหาและฝันของกลุ่มเปราะบางโดยเฉพาะมานิ ” เพราะชนเผ่ามานิแม้คุณภาพชีวิตดีขึ้น แต่ยังขาดอาชีพมั่นคง ขาดสิทธิที่ดิน ที่ผ่านมามีเด็กมานิ 34 คนได้รับโอกาสทางศึกษาตามระบบปกติ แต่โดยรวมนั้นการเข้าถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตยังมีข้อจำกัด เช่น งบอุดหนุนอิงกับสิทธิอยู่อาศัยถาวรซึ่งกลุ่มชาติพันธุ์ยังไม่มี การขอขึ้นทะเบียนสิทธิต่าง ๆ ที่ยังอุดมด้วยอุปสรรค

นำมาสู่ข้อเสนอ คือ ต้องมีเวทีเฉพาะแก้ปัญหากลุ่มเหล่านี้ และหากข้อมูลจากภาคประชาสังคมแน่น การนำเสนองบประมาณจะง่ายขึ้น รวมทั้งในกลุ่มเปราะบางอื่นๆที่ต้องสแกนร่วมกันให้ชัด

ผลักดันกลไกกลางของประชาชน เสริม One Plan ให้เป็นแผน “ของทุคน”

นายก่อเกียรติ ตั้นพัฒนกิจ ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์ฯ สำนักงานจังหวัด ซึ่งอยู่ร่วมแลกเปลี่ยนกับภาคประชาสังคมทั้งวัน ย้ำว่า

- ข้อเท็จจริงเป็นเรื่องสำคัญ รัฐเปิดเวทีรับฟังชัดเจน แต่การบูรณาการให้เสียงขึ้นถึงจังหวัดยังจำกัด

- ยกตัวอย่างความสำเร็จจากโครงการธนาคารปูม้า ที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน จับมือรัฐจนนำงบลงพื้นที่ได้

- ชี้ว่าประชาสังคมเองก็ต้องมีองค์กรกลางที่ประสานข้อมูล ข้อเสนอแผนให้เป็นเอกภาพ ยึดหลักว่าทุกกลุ่มต้องถอดหัว ตั้งต้นใหม่เพื่อเป็นหนึ่งเดียว

- ใช้กลไกประชาสังคมเป็นคณะทำงานคู่ขนานกับหน่วยราชการระดับอำเภอ/ตำบล

- จัดให้มีเวทีทำข้อมูลแต่ละกลุ่ม ดึงขึ้นสู่ภาพรวมจังหวัด วิเคราะห์ตามกรอบแผนพัฒนาจังหวัด 4 ด้าน เศรษฐกิจ, สังคม, โครงสร้างพื้นฐาน, สิ่งแวดล้อม มุ่งสร้างแบบแผนที่ใช่ ไม่ใช่ความรู้สึกส่วนตัว

ทิศทางใหม่ของจังหวัดเล็กแต่ใจใหญ่ พลิกโฉม One Plan จังหวัดสตูล

นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ กรรมการกำกับทิศทางฯ สสส. สำนัก 9 กล่าวในช่วงหนึ่งของการประชุมว่า จุดแข็งของสตูล คือ การมีเวทีแลกเปลี่ยนต่อเนื่อง มีสมัชชามาแล้ว 11 ปี แม้ข้อเสนอจะยังขึ้นแผนจังหวัดไม่ครบถ้วน แต่วันนี้เห็นชัดว่า

“เสียงภาคประชาสังคมดังขึ้น ประชาชนเริ่มมีเจ้าภาพ ดันแผนประชาชนแท้จริง เราอย่าไปฝันไกล ขอให้เริ่มที่เป้าหมายระยะใกล้ แต่เน้นจับต้องได้และวัดผลได้จริง แผนราชการมีจังหวะ ต้องทยอยเข้าให้ถูกเวลา แต่ถ้ามีข้อมูล ข้อเสนอหลักฐานชัด มีเจ้าภาพชัด โอกาสสำเร็จสูง ข้อเสียอันหนึ่งพวกเรา เราชอบฝันไปดาวอังคาร แล้วก็งง จรวดก็สร้างไม่เป็น เราชอบคิดว่าจะทำแผนที่สมบูรณ์แบบ เราขอไปแค่ตะรุเตา แผน One Plan ที่ประชาสังคมจะมีส่วนร่วมไม่ต้องครอบคลุมหมด เอาเรื่องแค่เราอยากแก้ปัญหา บางเรื่องจังหวัดก็ทำอยู่แล้ว ดังนั้น เริ่มต้นจากสิ่งที่ทำได้ ไม่พยายามทำทุกอย่างในคราวเดียว แต่เลือกประเด็นที่สำคัญและมีความพร้อม แล้วค่อยขยายผลต่อไป”

โดย นพ.สุภัทร สรุปข้อเสนอพร้อมเดินหน้า ดังนี้

- ตั้งวงพูดคุยกับจังหวัด หยิบประเด็นทวิภาคีขึ้นคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

- ผลักดันให้มี “Action Plan” กับกลุ่มเป้าหมายชัด เช่น มานิ, กลุ่มคนพิการ, ผู้หญิง, เด็ก ฯลฯ

- สร้างสภาภาคประชาสังคม เป็นตัวกลางเชื่อมรัฐ–ประชาชน มีคณะทำงานทางการที่รัฐเห็นพ้อง

- คัดเลือกเจ้าภาพแต่ละประเด็น และเดินหน้าสร้างประชาสังคมที่เข้มแข็ง

ในท้ายที่สุด พระครูสุนทรธรรมนิเทศ (วรพล ทองไฝ) เจ้าอาวาสวัดชนาธิปเฉลิม กล่าวปิดเวทีว่า

“หนทางหมื่นลี้เริ่มต้นที่ก้าวแรก เราจะทำสิ่งใหญ่ๆ ให้สำเร็จได้ ต้องกล้าเริ่มที่สิ่งเล็กๆก่อน อย่าทิ้งใครไว้ข้างหลัง อย่านำใครไปก่อนข้างหน้า สุขสตูล สุขทั้งกลุ่มเป้าหมายและคนทำงาน”

สตูลและตัวอย่าง 4 จังหวัดเปิดแนวทางใหม่ให้เห็นชัดว่าการขับเคลื่อน One Plan จะสำเร็จได้อย่างแท้จริง ก็ต่อเมื่อประชาชน รัฐ ภาคส่วนอื่นๆจับมือเป็นหุ้นส่วนไม่ใช่คู่แข่ง ความท้าทายคือการเชื่อมโยงข้อมูล ระงับข้อจำกัดจากทั้งสองฝ่าย สร้างวงคุยถาวร เลือกเจ้าภาพขับเคลื่อนข้อเสนอในแต่ละเรื่อง และผลักแผนจากห้องประชุมไปสู่จังหวัดอย่างเป็นรูปธรรม

วันนี้ แผนของประชาชนคนสตูลเริ่มเป็นรูปร่างแล้ว ก้าวแรกถูกวางแล้วบนถนนหมื่นลี้ ด้วยความหวังว่าทุกกลุ่ม ทุกคน จะไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังในทุกแผนพัฒนา เพราะสตูลไม่รอฝัน แต่ลงมือสร้าง One Plan เวทีเปลี่ยนแปลงจริงเพื่อทุกชีวิต ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

เนื้อหาอื่นๆ

09 กรกฎาคม 2020
01 พฤศจิกายน 2023
28 สิงหาคม 2023

Copyright © 2013 THETHAIACT