25 กรกฎาคม 2025

จังหวัดพะเยาตั้งคณะทำงานภาคประชาสังคม จับมือรัฐ หนุนเสริมคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง ผ่านแผนพัฒนาจังหวัด

จังหวัดพะเยาตั้งคณะทำงานภาคประชาสังคม จับมือรัฐ หนุนเสริมคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง ผ่านแผนพัฒนาจังหวัด

เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ภาคประชาสังคมจังหวัดพะเยาจากหลายหลายประเด็นรวมตัวกันอย่างพร้อมเพรียง เพื่อปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ถึงบทบาทในการหนุนเสริมการดูแลสุขภาวะประชากรกลุ่มเปราะบางที่หน่วยงานภาครัฐมีข้อจำกัดในการดูแล ผ่านกลไกแผนพัฒนาจังหวัด (One Plan)

จัดโดยสถาบันส่งเสริมภาคประชาสังคม (สสป.) ร่วมกับสมาคมเครือข่ายสร้างบ้านแปงเมืองพะเยา ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

เวทีภาคเช้า - เปิดใจภาคประชาสังคม สะท้อนปัญหาการมีส่วนร่วม ณ ห้องประชุมศูนย์ประสานงานเครือข่ายสร้างบ้านแปงเมืองพะเยา วัดศรีโคมคำ

ในภาคเช้า ผู้แทนภาคประชาสังคมกว่า 35 คน จากหลากหลายกลุ่มกว่า 23 องค์กร ได้ร่วมประชุมเพื่อสร้างความเข้าใจต่อบทบาทในการมีส่วนร่วมจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด โดยมีนายวีรพงษ์ เกรียงสินยศ กรรมการกำกับทิศทางงานบูรณาการเครือข่ายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพ สสส. และนางสาวบุษยรัตน์ กาญจนดิษฐ์ นักวิชาการสถาบันส่งเสริมภาคประชาสังคม ร่วมดำเนินกระบวนการ

สาระสำคัญที่ผู้เข้าร่วมสะท้อนร่วมกันในภาคเช้า คือ

1. ปัญหาจากกลไก ก.บ.จ. โครงการที่ภาคประชาสังคมเสนอ มักถูกปรับเปลี่ยนจากเจตนารมณ์เดิม เมื่อเข้าสู่กลไกการทำแผนพัฒนาจังหวัด

2. ขาดตัวแทนกลุ่มเปราะบาง เพราะ ก.บ.จ. ยังไม่มีตัวแทนจากกลุ่มคนพิการ แรงงานนอกระบบ หรือผู้มีความหลากหลายทางเพศ ทำให้ประเด็นปัญหาของกลุ่มเหล่านี้ไม่ได้รับการนำเสนอและไม่ปรากฏในแผน โดยจะเสนอให้ปรับโครงสร้าง ก.บ.จ. เพื่อให้มีตัวแทนที่หลากหลายมากขึ้น

3. การทำงานของรัฐไม่ครอบคลุม พบว่า หน่วยงานรัฐมักเน้นประสานกับภาคประชาสังคมบางกลุ่ม ทำให้ประเด็นปัญหาของกลุ่มอื่น ๆ ตกหล่นไป

4. ข้อจำกัดของภาคประชาสังคมใน ก.บ.จ. ที่ภาคประชาสังคมที่เข้ามาเป็นกรรมการต้องมีจิตอาสาและเสียสละค่าใช้จ่ายเอง ทำให้กลุ่มที่มีข้อจำกัดเข้าถึงยาก

5. ปัญหาการประสานงานภาครัฐ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) มีภารกิจมากแต่กำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ขาดการเชื่อมประสาน รวมถึงความยากในการผลักดันแผนระดับตำบลไปสู่ระดับจังหวัด

6. ปัญหาเฉพาะหน้าของกลุ่มเป้าหมายและคนทำงานภาคประชาสังคม เช่น
- กลุ่มคนหูหนวก: ขาดล่ามภาษามือในจังหวัด ส่งผลกระทบต่อการสื่อสารเมื่อไปโรงพยาบาลและการทำธุรกรรมต่างๆ
- กลุ่มหลากหลายทางเพศ: ต้องการพื้นที่ปลอดภัยเพื่อสร้างการยอมรับ ยังถูกเลือกปฏิบัติ ยังประสบปัญหาการเข้าไม่ถึงบริการ
- ความรุนแรงในครอบครัว: พบความรุนแรงทางเพศในครอบครัว โดยเฉพาะในกลุ่มที่ยากจน และขาดแคลนนักจิตวิทยาในพื้นที่
- แรงงานนอกระบบ: ขาดที่ทางในการกำหนดทิศทางด้านแรงงานในแผนพัฒนาจังหวัด
- หน่วยงานรัฐเน้นประสานงานกับกลุ่มประชาสังคมใกล้ตัว ลืมกลุ่มที่ทำงานกับประชากรกลุ่มเปราะบางอย่างลึกซึ้ง


7. ขาดแผนปฏิบัติการรายกลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มขาดแผนปฏิบัติการที่ชัดเจน ควรได้รับการสนับสนุนให้จัดทำแผนคุณภาพชีวิตของกลุ่มประชากรตนเอง เพื่อให้การสื่อสารกับภาครัฐตรงประเด็นมากขึ้น

ซึ่งที่ประชุมภาคเช้าได้เปรียบเทียบสถานการณ์เหมือนวงดนตรี ที่มีเครื่องดนตรีและทำนองของตัวเอง แต่ขาดโน้ตเพลงรวม และบางครั้งเครื่องดนตรีก็ถูกปรับแต่งเสียง โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากเจ้าของ ทำให้เสียงไม่ประสานกัน การประชุมครั้งนี้จึงเป็นการรวมนักดนตรี เพื่อสร้างสรรค์บทเพลงที่ไพเราะและกลมกลืนร่วมกันสำหรับคนพะเยาในอนาคต

เวทีภาคบ่าย - สู่การเชื่อมโยงกับภาครัฐ ผลักดันข้อเสนอสู่การปฏิบัติ

รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยายอมรับข้อจำกัดโครงสร้างของรัฐ จึงต้อง “จับมือกัน” ให้ได้มากขึ้นในการจัดทำแผน One Plan โดยเฉพาะในระดับตำบล ที่เป็นจุดเริ่มต้นของแผนพัฒนาจังหวัด

ในภาคบ่าย ผู้แทนภาคประชาสังคมได้เข้าพบนายบำรุง สังข์ขาว รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เพื่อหารือถึงแนวทางการหนุนเสริมบทบาทภาคประชาสังคมต่อการมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาวะประชากรกลุ่มเปราะบาง ผ่านกลไกแผนพัฒนาจังหวัด (One Plan) ณ ห้องประชุมจอมทอง ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดพะเยา

นอกจากตัวแทนภาคประชาสังคม ยังมีผู้เข้าร่วมจากหน่วยงานภาครัฐหลายภาคส่วน ทั้งสำนักงานจังหวัดพะเยา , พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพะเยา ,ปกครองจังหวัดพะเยา , สาธารณสุขจังหวัดพะเยา , พัฒนาชุมชนจังหวัดพะเยา , ท้องถิ่นจังหวัดพะเยา , วัฒนธรรมจังหวัดพะเยา ,รองศึกษาธิการจังหวัดพะเยา , ปลัดอำเภอภูซาง , ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม องค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา รวมทั้งหอการค้าจังหวัดพะเยา และคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา เข้าร่วมประชุมร่วมกับภาคประชาสังคม รวมทั้งสิ้นกว่า 40 คน

นางมุกดา อินต๊ะสาร นายกสมาคมเครือข่ายสร้างบ้านแปงเมือง ได้กล่าวแนะนำเริ่มต้น ว่าการประชุมนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนามาตรการและแนวปฏิบัติเพื่อให้แผนพัฒนาจังหวัดสนับสนุนองค์กรภาคประชาสังคมเป็นหุ้นส่วนร่วมจัดบริการ ซึ่งสถาบันส่งเสริมภาคประชาสังคมได้รับการสนับสนุนจาก สสส. โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของประชากรกลุ่มเปราะบางที่รัฐมีข้อจำกัดในการดูแล

นายวีรพงษ์ เกรียงสินยศ กรรมการกำกับทิศทางงานบูรณาการเครือข่ายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพ สสส. สำนัก 9 ได้กล่าวถึงบทบาทและภารกิจของ สสส. ในการสนับสนุนภาคประชาสังคมทำงานในมิติต่าง ๆ ในจังหวัดพะเยา การหารือได้มุ่งเน้นไปที่ “ระบบและกลไกการพัฒนาจังหวัด” โดยเฉพาะการเชื่อมโยงกับแผนพัฒนาต่าง ๆ ที่มีอยู่ในระดับจังหวัด


รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาเน้นย้ำว่า แผนพัฒนาจังหวัดปัจจุบัน มีมิติของการพัฒนาคนอยู่แล้ว แต่ความท้าทายคือการสร้างเป้าหมายการดำเนินงานร่วมกัน จังหวัดไม่สามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายเฉพาะได้เหมือนภาคประชาสังคม จึงต้องอาศัยความร่วมมือที่สอดคล้องกันมากขึ้น โดยเฉพาะกระบวนการจัดทำแผน One Plan ที่เริ่มต้นจากระดับตำบล หากภาคประชาสังคมสามารถเข้าร่วมตั้งแต่ต้นกระบวนการ ก็จะทำให้ประเด็นปัญหาของกลุ่มเปราะบางได้รับการพิจารณาอย่างรอบด้าน

ข้อเสนอจากภาคประชาสังคมและผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม - จากข้อจำกัดและปัญหาที่สะท้อนมา ภาคประชาสังคมได้มีข้อเสนอแนะที่สำคัญต่อจังหวัดพะเยา ดังนี้


1) ขอให้จังหวัดพิจารณาแต่งตั้ง “กลไกความร่วมมือระหว่างรัฐกับภาคประชาสังคม” เพื่อให้เกิดเวทีหารืออย่างสม่ำเสมอ และเปิดพื้นที่ให้หน่วยงานรัฐรู้จักกับภาคประชาสังคมมากขึ้น

2) เสนอให้มีการแต่งตั้ง “คณะทำงานจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดด้านคุณภาพชีวิต” โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และมีตัวแทนภาคประชาสังคมเข้าร่วม

3) เสนอให้จังหวัดพิจารณากำหนด “กลไกคู่ขนาน” เพื่อให้ภาคประชาสังคมสามารถเสนอข้อมูลและความเห็นในระหว่างการจัดทำแผน

4) ต้องพิจารณาปรับ “กฎระเบียบ” และเงื่อนไขการใช้งบประมาณให้ยืดหยุ่นและสอดคล้องกับลักษณะปัญหาของกลุ่มเปราะบาง

5) ควรมีการพัฒนาศักยภาพของ “ผู้นำการขับเคลื่อนแผน One Plan” ให้มีประสิทธิภาพ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนและภาคประชาสังคมมากขึ้น

6) เสนอให้พิจารณาแต่งตั้งเครือข่ายภาคประชาสังคมใน ก.บ.จ. ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากผู้แทนสภาองค์กรชุมชน เพื่อให้เป็นกลไกในการขับเคลื่อนต่อไป

โดยสรุป รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาได้เสนอให้จัดตั้ง "คณะทำงานภาคประชาสังคม" ขึ้น เพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดทำแผนด้านคุณภาพชีวิต ซึ่งหัวหน้าสำนักงานจังหวัดพะเยา ผู้รับผิดชอบจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดโดยตรง ได้แสดงความยินดีที่จะนำข้อเสนอทั้งหมดไปพิจารณา

และจะยกร่างคำสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาแต่งตั้งคณะทำงานภาคประชาสังคม เพื่อสนับสนุนข้อมูล ประเด็นปัญหา และสถานการณ์ต่อการจัดทำร่างแผนพัฒนาจังหวัดพะเยา พ.ศ. 2571-2575 ในประเด็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตต่อไป โดยจะมีการหารือรายละเอียดกับเครือข่ายภาคประชาสังคมอีกครั้ง เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง

เวทีครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกของการ “รวมวงประชาสังคมพะเยา" เพื่อสะท้อน “โน้ตดนตรี” ที่ต่างคนต่างเล่น มาเป็น “เพลงร่วม” ที่ทุกกลุ่มในสังคมพะเยาได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนสุขภาวะคนพะเยาอย่างแท้จริง

หากกลไกใหม่เกิดขึ้น “เสียงคนใกล้รอยต่อ” จะไม่เพียงก้องในหอประชุม แต่จะก้องกังวานไปถึงนโยบายระดับจังหวัด และเปลี่ยน “ปัญหาที่เคยเงียบ” ให้กลายเป็น “ท่วงทำนองแห่งการเปลี่ยนแปลง”

รายงานโดย : บุษยรัตน์ กาญจนดิษฐ์
นักวิชาการสถาบันส่งเสริมภาคประชาสังคม

เนื้อหาอื่นๆ

04 กุมภาพันธ์ 2022
15 มกราคม 2024
02 มกราคม 2023

Copyright © 2013 THETHAIACT